IELTS VS CEFR สองเกณฑ์วัดภาษาอังกฤษ ต่างกันอย่างไร

IELTS VS CEFR สองเกณฑ์วัดภาษาอังกฤษ ต่างกันอย่างไร

น้อง ๆ หลายคนที่กำลังเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษเพื่อใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัย หรือสมัครทุนต่างประเทศ อาจเคยได้ยินชื่อของ IELTS และ CEFR อยู่บ่อย ๆ จนสงสัยว่าสองระบบนี้ต่างกันยังไง แล้วถ้าน้องมีคะแนน IELTS อยู่แล้ว จำเป็นต้องรู้ระดับ CEFR ด้วยไหม บทความนี้พี่จะพาน้อง ๆ ไปทำความเข้าใจความหมาย จุดประสงค์ และความแตกต่างของ IELTS VS CEFR เพื่อให้เลือกสอบ หรือเทียบผลได้อย่างถูกต้องตรงจุดค่ะ

IELTS คืออะไร

International English Language Testing System หรือ IELTS เป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา และสหราชอาณาจักร การสอบ IELTS ครอบคลุมทักษะภาษาอังกฤษครบทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน

ระบบการให้คะแนนของ IELTS จะแบ่งเป็น Band Score ตั้งแต่ 1.0 จนถึง 9.0 โดยระดับ 9.0 เป็นระดับสูงสุดที่แสดงถึงการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำ ผลคะแนน IELTS มีอายุการใช้งาน 2 ปี และสามารถนำไปใช้สมัครเรียนต่อ ทำงาน หรือขอวีซ่าในต่างประเทศได้

IELTS เหมาะกับใคร

การสอบ IELTS มีหลายรูปแบบให้เลือก โดยหลักๆ จะมี 2 ประเภทคือ Academic และ General Training IELTS โดย Academic เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการสมัครเรียนต่อระดับอุดมศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือสมัครงานในองค์กรที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ส่วน IELTS General Training จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการทำงานในต่างประเทศ หรือขอวีซ่าเพื่อโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ

IELTS เหมาะกับใคร

CEFR คืออะไร

Common European Framework of Reference for Languages หรือ CEFR เป็นมาตรฐานสากลสำหรับการวัดระดับความเชี่ยวชาญทางภาษา ไม่ใช่เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ครอบคลุมภาษาต่าง ๆ ทั่วโลก CEFR ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในทวีปยุโรปและใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงในการประเมินทักษะภาษา

ระบบการแบ่งระดับของ CEFR จะแบ่งเป็น 6 ระดับใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ระดับเริ่มต้น (A1, A2) ระดับพื้นฐาน (B1, B2) และระดับเชี่ยวชาญ (C1, C2) โดย A1 เป็นระดับเริ่มต้นสุด และ C2 เป็นระดับเชี่ยวชาญสูงสุด 

CEFR เหมาะกับใคร

CEFR เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการทดสอบและประเมินระดับภาษาอังกฤษของตัวเอง

การสอบ IELTS VS CEFR ต่างกันอย่างไร

IELTS เป็นการสอบเฉพาะเจาะจงที่วัดทักษะทั้ง 4 ด้านอย่างละเอียด ในขณะที่ CEFR ไม่ได้เป็นระบบการสอบโดยตรง แต่เป็นเกณฑ์มาตรฐานกลางสำหรับอธิบายระดับความสามารถทางภาษา ใช้เทียบเคียงหรืออ้างอิงระดับความสามารถในหลายภาษา (ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษ)

นอกจากนี้ IELTS ใช้สำหรับยื่นสมัครเรียน สมัครงาน ย้ายถิ่นฐาน หรือใช้ตามเกณฑ์รับเข้าของมหาวิทยาลัยและสถาบันต่าง ๆ ส่วน CEFR ใช้สำหรับเทียบมาตรฐานความสามารถทางภาษา หรือประเมินระดับทักษะที่ควรพัฒนา

เปรียบเทียบระดับ CEFR และ Band Score ของ IELTS

ระดับ CEFR

ระดับความเชี่ยวชาญ

Band Score IELTS

C2

ระดับเชี่ยวชาญ

8.5 – 9.0

C1

7.0 – 8.0

B2

ระดับพื้นฐาน

5.5 – 6.5

B1

4.0 – 5.0

A2

ระดับเริ่มต้น

2.5 – 3.5

A1

1.0 – 2.0

CEFR ช่วยในการเตรียมสอบ IELTS อย่างไร

CEFR ช่วยในการเตรียมสอบ IELTS อย่างไร

การรู้ระดับภาษาอังกฤษของตัวเองตามเกณฑ์ CEFR จะช่วยให้น้อง ๆ วางแผนการเตรียมสอบ IELTS ได้ตรงจุดมากขึ้น เพราะจะมองเห็นภาพรวมของทักษะที่ควรพัฒนา เช่น ถ้าทดสอบแล้วอยู่ที่ระดับ B1 น้องจะรู้ว่าต้องเสริมทักษะอะไรเพื่อให้ถึงระดับ B2 ซึ่งโดยประมาณจะเทียบได้กับคะแนน IELTS 5.5–6.5 ทำให้การเรียนหรือเลือกคอร์สติว IELTS มีทิศทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ

IELTS VS CEFR เป็นสองมาตรฐานที่มีจุดประสงค์แตกต่างกัน IELTS เป็นการสอบเฉพาะทางที่ใช้สมัครเรียนต่อและทำงาน ส่วน CEFR เป็นกรอบมาตรฐานที่ช่วยประเมินและวางแผนการเรียนรู้ภาษา การเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองจะช่วยให้การเตรียมตัวสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น

The Advisor Academy สถาบันติวสอบหลักสูตรอินเตอร์ชั้นนำ มีคอร์สเรียน IELTS คอร์สติว GED คอร์สติว IGCSE และคอร์สติว SAT ที่ช่วยน้อง ๆ เตรียมความพร้อมก่อนลงสนามสอบได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะกำลังมองหาคอร์สเรียนวิชาไหน หรือไม่แน่ใจว่าเรียน IELTS ที่ไหนดี เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำแนวทางการเรียนที่เหมาะกับน้อง ๆ ทุกคน สอบถามเพิ่มเติมติดต่อพี่ The Advisor มาได้เลยค่า