อยากสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศต้องทำยังไงบ้าง?

อยากสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศต้องทำยังไงบ้าง?

เชื่อว่ามีน้อง ๆ หลายคนเลยที่สงสัยว่า GED ใช้ยื่นเข้าแพทย์ได้ไหม ? อยากสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศต้องทำยังไงบ้าง ? หรือ สอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศต้องสอบวิชาอะไรบ้าง ? เอาเป็นว่าน้อง ๆ คนไหนที่อยากรู้คำตอบ ใน Blog นี้พี่เลยจะมาไขข้อสงสัยให้แบบกระจ่างแจ้งกันเลย 

ใช้ผลสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศได้ไหม?

ใช้ผลสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศได้ไหม?

น้อง ๆ สามารถใช้ผลการสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศ ได้ค่ะ แต่จะเลือกเข้าเรียนได้เฉพาะบางประเทศเท่านั้น ซึ่งประเทศหลักๆที่รับผลสอบ GED เข้าคณะแพทย์ คือ โปแลนด์ และบางมหาวิทยาลัยในอเมริกา

เงื่อนไขการยื่นผลสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศ

  • น้อง ๆ จะต้องจบการศึกษาในระดับม.ปลาย (หากใช้ GED ยื่น จะต้องมีคะแนน 160 คะแนนขึ้นไป ในทุกวิชา)
  • IELTS BAND 6.5+
  • สอบสัมภาษณ์เรื่องชีววิทยาและจิตวิทยา

ใช้ผลสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศที่ไหนได้บ้าง

อย่างที่พี่ ๆ ได้บอกไปเลยก็คือ สามารถใช้ผลการสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศ ได้ในหลักสูตรนานาชาติ ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งเมืองลูบลิน (Medical University of Lublin) ประเทศโปแลนด์ค่ะ น้อง ๆ สามารถใช้วุฒิ GED ยื่นเข้าเรียนต่อได้โดยไม่ต้องสอบข้อเขียนเพิ่ม

สำหรับคณะแพทย์ หลักสูตรนานาชาติ ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งเมืองลูบลินนั้นจะเปิดสอนด้วยกันทั้งหมด 4 คณะ ดังนี้ค่ะ

  • Faculty of Medicine with Dentistry Division
  • Faculty of Medicine with English Language Division
  • Faculty of Pharmacy with Medical Analytics Division
  • Faculty of Nursing and Health Sciences

สอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศ มีวิชาอะไรบ้าง

สอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศ มีวิชาอะไรบ้าง

ในการสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศ วิชาหลัก ๆ ที่น้อง ๆ จะต้องสอบจะมีด้วยกัน 4 วิชาค่ะ ได้แก่

1. GED Mathematical Reasoning

GED Mathematical Reasoning เป็นการสอบวิชาคณิตศาสตร์ เน้นในเรื่องของ Algebra และ Quantitative Problem Solving เนื้อหาสอบแบ่งได้ 2 พาร์ท น้อง ๆ สามารถนำเครื่องคิดเลขเข้าไปใช้ได้ในพาร์ท 2 เลยค่ะ รวมทั้งการแก้ปัญหาทางพีชคณิต โดยเนื้อหาข้อสอบจะประกอบไปด้วย

  • คณิตศาสตร์พื้นฐาน (Basic Math )
  • เรขาคณิต (Geometry)
  • พีชคณิตพื้นฐาน (Basic Algebra)
  • กราฟและฟังก์ชัน (Graphs and function)

2. GED Reasoning Through Language Arts

GED Reasoning Through Language Arts เป็นการสอบเน้นเรื่องการอ่านและเขียนภาษาอังกฤษเพื่อทดสอบทักษะของผู้เรียน รวมถึงมีการเขียนเรียงความแบบ Argumentative โดยข้อสอบ RLA จะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ท ได้แก่

  • พาร์ทที่ 1 – เป็น Reading และ Basic Grammar ได้แก่ เรื่องแต่ง บทความทั่วไป และบทความวัดความรู้ด้านแกรมมาร์พื้นฐาน
  • พาร์ทที่ 2 – เป็นการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ Argumentative

3. GED Social Studies 

GED Social Studies วิชาสังคมศึกษาและประวัติศาสตร์ โดยจะเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประวัติศาสตร์และการเมืองการปกครอง รวมทั้งการอ่านตัวเลข กราฟ ตาราง และแผนที่ที่เกี่ยวข้องในด้านสังคมและประวัติศาสตร์ด้วยค่ะ  โดยเนื้อหาที่ออกสอบ ได้แก่

  • ประวัติศาสตร์อเมริกา (U.S. History)
  • การเมืองการปกครอง (Civic and government)
  • เศรษฐศาสตร์ (Economics)
  • ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์โลก (Geography and the world)

4. GED Science

GED Science เป็นการสอบวิชาวิทยาศาสตร์ โดยจะเน้นหลักการด้านเหตุผลเชิงคณิต-วิทย์ ใช้เครื่องคิดเลขในห้องสอบได้ ใช้เวลาสอบ 90 นาที เนื้อหาที่น้อง ๆ ต้องใช้สอบจะมีอยู่ 3 หัวข้อหลัก ๆ ได้แก่

  • การอ่านบทอ่านภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ (Reading for meaning in Science)
  • การออกแบบและทดลองทางวิทยาศาสตร์ (Designing and interpreting science experiments)
  • การอ่านตัวเลขและกราฟที่เกี่ยวข้องกับวิชาวิทยาศาสตร์ (Using numbers and graphics in science)

สรุป

สรุปแล้ว ผลสอบ GED เข้าแพทย์ต่างประเทศได้นะคะ หากน้อง ๆ อยากสอบเทียบ GED ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้เข้าเรียนต่อคณะแพทย์ไม่ได้ เพราะตอนนี้มีหลักสูตรแพทย์หลายแห่งทั้งประเทศไทยและต่างประเทศเปิดรับวุฒิ GED เพิ่มมากขึ้นแล้ว 

หากน้อง ๆ สนใจข้อมูลการใช้วุฒิ GED เรียนต่อแพทย์ของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ หรืออยากติวสอบ GED ที่ The Advisor Academy มีบริการครบทุกความต้องการ รวมถึงยังมีคอร์สเรียนหลากหลายรองรับน้อง ๆ อีกด้วย มีตั้งแต่คอร์สปรับพื้นฐานเนื้อหา คอร์สปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อการสอบ GED และคอร์สตะลุยโจทย์ เรียกได้ว่าเป็น One-stop-service เลยทีเดียวค่ะ สนใจปรึกษาคอร์สเรียนสามารถติดต่อพี่ ๆ ได้เลยนะคะ