หลักสูตร A-Level, IB และ AP ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดีกว่า

หลักสูตร A-Level, IB และ AP ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดีกว่า

หนึ่งในหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติ ทั้งผู้ปกครองและน้อง ๆ หลายคนสนใจเชื่อว่าต้องมี หลักสูตร A-Level อย่างแน่นอน เพราะเป็นหลักสูตรการเรียนการสอบที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ใช้สำหรับเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักร ซึ่งก็เหมาะกับน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศนั่นเองค่ะ แต่ก็ยังมีน้อง ๆ และผู้ปกครองหลายคนสงสัยว่าแท้จริงแล้ว หลักสูตร A-Level คืออะไร ? หลักสูตร A-Level, IB และ AP ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดีกว่า ? วันนี้พี่ ๆ จาก The Advisor Academy จะมาให้คำตอบครบแบบถึงบางอ้อกันไปเลย

หลักสูตร A-Level คืออะไร

หลักสูตร A-Level คืออะไร

หลักสูตร A-Level (Advanced Level) เป็นหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติที่ใช้สำหรับเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักร ซึ่งก็เทียบได้กับระดับเตรียมอุดมศึกษาในระบบการศึกษาของไทยค่ะ โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาการเรียนประมาณ 2 ปีคือ Year 12-13  ในช่วงปีแรกจะเรียกว่า AS Level และในปีที่ 2 จะเรียกว่า A2 Level

ระดับการศึกษาของ A-Level

ระดับการศึกษาของ A-Level จะแบ่งออกเป็น 2 ระดับด้วยกัน ได้แก่

  • AS Level (Advanced Subsidiary Level) จะเป็นช่วงปีแรก คือ Year 12 ซึ่งจะเทียบเท่า ม.5 ในไทย เป็นหลักสูตรที่ใช้ระยะเวลาเรียนทั้งหมด 1 ปี ในหลักสูตรนี้น้อง ๆ จะต้องเลือกเรียน 4 วิชา ส่วนเกรดที่ได้จะเป็น a,b,c,d และ e 
  • A2 Level (Examination) คือการเรียนในช่วง Year 13  ในหลักสูตรนี้น้อง ๆ จะต้องเลือกเรียน 3-4 วิชา ได้คะแนนเป็นเกรด A* แล้วไล่มาที่ A,B,C,D,E ตามลำดับ เมื่อเรียนจบทั้ง AS และ A2 Level แล้วถึงจะถือว่าเรียน A-Level ครบ

จุดเด่นของ A-Level

  • หลักสูตร A-Level (Advanced Level) เป็นหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติ ที่เข้มข้นและเนื้อหาลึก ทำให้นักเรียนมีความรู้และทักษะทางวิชาการที่สูง
  • หลักสูตร A-Level ในโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษ น้อง ๆ สามารถเลือกเรียนวิชาที่ตัวเองถนัด และอยากไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมา 3 วิชา โดยไม่ต้องเรียนวิชาอื่นนอกเหนือจากนี้อีกเลย

หลักสูตร IB คืออะไร

หลักสูตร IB คืออะไร

หลักสูตร IB (International Baccalaureate) เป็นหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติ ที่เน้นประยุกต์และบูรณาการจากระบบการศึกษาต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อให้นักเรียนทุกคนที่ได้เรียนหลักสูตรนี้มีความพร้อมในฐานะพลเมืองของโลก ไม่ใช่ของประเทศใดประเทศหนึ่ง พูดง่าย ๆ ก็คือโรงเรียนที่ใช้หลักสูตร IB จะใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมดค่ะ เพื่อที่จะให้นักเรียนสามารถเอาคะแนนไปยื่นเข้าสอบหรือสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในระดับนานาชาติได้ทั่วโลก 

ระดับการศึกษาของ IB

ระดับการศึกษาของ IB จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 

  • หลักสูตรการศึกษาระดับต้น (IB Primary Years Programme, PYP – Grade 1 to 5) สำหรับเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 3 ถึง 12 ปี
  • หลักสูตรการศึกษาระดับกลาง (IB Middle Years Programme, MYP – Grade 6 to 10) สำหรับนักเรียนอายุระหว่าง 11 ถึง 16 ปี
  • หลักสูตรการศึกษาระดับประกาศนียบัตรนานาชาติ (IB Diploma Programme, IBDP- Grade 11 to 12) สำหรับนักเรียนอายุระหว่าง 16 ถึง 19 ปี

จุดเด่นของ IB

  • เน้นความเป็น Global และหลากหลาย สามารถนำคะแนนไปยื่นเข้าสอบหรือสมัครเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
  • มหาวิทยาลัยอาจยกเว้นวิชาเรียนบางตัวในปี 1 ให้น้อง ๆ หากผ่านวิชานั้นมาแล้วใน IB Diploma และได้คะแนนมากกว่า 4-5 บางมหาวิทยาลัยอาจใช้ IB ตัวนี้เก็บเป็นเครดิต ทำให้น้อง ๆ สามารถลดจำนวนวิชาเรียนลงได้
  • การยื่นเข้ามหาวิทยาลัย IB นั้นมีความเป็นสากลและเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก

หลักสูตร AP คืออะไร

หลักสูตร AP คืออะไร

หลักสูตร AP (Advanced Placement Program) เป็นหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติที่เป็นสูตรเสริมสำหรับนักเรียนระดับมัธยมปลายเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยค่ะ จะเน้นการเรียนรู้ตั้งแต่ช่วงประถมควบคู่กับกิจกรรม เพื่อให้นักเรียนรับรู้ความต้องการของตนเอง ซึ่งจะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างยากและลึก เพราะเป็นหลักสูตรที่นักเรียนสามารถนำคะแนนเหล่านี้ไปเทียบโอนหน่วยกิตวิชาเรียนปี 1 เพื่อลดเวลาเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้

ระดับการศึกษาของ AP

หลักสูตร AP เป็นหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติที่ออกแบบมาให้กับนักเรียน Grade 12 เพื่อให้พร้อมสำหรับการเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย แต่ทั้งนี้หลักสูตร AP ไม่ได้เป็นหลักสูตรบังคับนะคะ เป็นเพียงทางเลือกให้กับน้อง ๆ เท่านั้น สามารถอ่านหนังสือและเลือกวิชาสมัครสอบเองได้เลยค่ะ

จุดเด่นของ AP

  • คนที่จะไปสอบไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กที่เรียนในโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนแบบ AP มาก่อนเท่านั้นสามารถหาหนังสือมาอ่านเองที่บ้านเพื่อเตรียมสอบได้
  • คนที่สอบผ่านหลักสูตร AP และได้คะแนนตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด จะได้รับพิจารณาให้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
  • ไม่ได้เป็นหลักสูตรบังคับ ถ้าน้อง ๆ สอบผ่านได้หลายวิชาตามที่มหาวิทยาลัยเปิดสอน ก็เท่ากับน้อง ๆ ได้เก็บสะสมหน่วยกิตได้เร็วขึ้น นั่นหมายความว่าโอกาสที่น้อง ๆ จะเรียนจบเร็วกว่าเพื่อนก็มีมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่างหลักสูตร A-Level, IB และ AP

  • หลักสูตร A-Level เป็นหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติที่ใช้สำหรับเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักร ซึ่งก็เทียบได้กับระดับเตรียมอุดมศึกษาในระบบการศึกษาของไทย ใช้เวลาการเรียนประมาณ 2 ปี ข้อดี คือ น้อง ๆ สามารถเลือกเรียนวิชาที่ตัวเองถนัด และอยากไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมา 3 วิชา โดยไม่ต้องเรียนวิชาอื่นนอกเหนือจากนี้อีกเลย

  • หลักสูตร IB เป็นหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติ ที่เน้นประยุกต์และบูรณาการจากระบบการศึกษาต่าง ๆ ทั่วโลกเพื่อให้นักเรียนมีความสามารถรอบด้าน สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวนอกจากวิชาการและมีองค์ความรู้ที่ลึกซึ้ง ข้อดีคือน้อง ๆ สามารถนำคะแนนไปยื่นเข้าสอบหรือสมัครเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพราะมีความเป็นสากลและเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก

  • หลักสูตร AP เป็นหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติที่ถูกออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับน้อง ๆ เข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ข้อดีคือ ไม่ได้เป็นหลักสูตรบังคับ ซึ่งถ้าน้อง ๆ สอบผ่านตามวิชาตามที่มหาวิทยาลัยเปิดสอน โอกาสที่น้อง ๆ จะเรียนจบเร็วกว่าเพื่อนก็มีมากขึ้น

สรุป

ทั้งหลักสูตร A-Level, IB และ AP น้อง ๆ ก็ได้เห็นถึงความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ทั้งระบบการเรียนการสอน หลักสูตรวิชาเรียน ซึ่งถ้าหากถามว่า เลือกเรียนหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติแบบไหนดี อันนี้พี่ ๆ คิดว่าขึ้นอยู่กับความต้องการของน้อง ๆ เลยค่ะ เพราะทุกหลักสูตรก็มีข้อดีต่างกัน 

แต่ถ้าน้อง ๆ คนไหนที่อยากเรียนต่อต่างประเทศแต่ว่าไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี หรือต้องการที่ปรึกษา พี่ ๆ ที่ The Advisor ยินดีให้คำปรึกษาทั้งเรื่องการสอบรวมถึงช่วยวางแผนการเรียนต่อให้น้อง ๆ ฟรี สามารถส่งข้อความมาหาพี่ ๆ The Advisor Academy หรือรอติดตามอ่านในบล็อกต่อไปได้เลยนะคะ