อยากเรียนต่อต่างประเทศ ต้องรู้อะไรบ้าง
เชื่อว่าการไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นความฝันของน้องหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นการไปเรียนคอร์สระยะสั้น เรียนปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก แต่การจะไปเรียนต่อนั้นมีสิ่งที่เราจำเป็นรู้และเตรียมพร้อม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้อย่างราบรื่น วันนี้พี่ The Advisor เลยรวบรวม 8 สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศมาให้ได้อ่านกันค่ะ
8 สิ่งต้องรู้ ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ
การไปเรียนต่อต่างประเทศมี 8 สิ่งที่ควรรู้ ดังนี้
1. ตั้งเป้าหมายการไปเรียนต่อต่างประเทศ
สิ่งแรกที่น้อง ๆ ต้องทำ คือ การตั้งเป้าหมายว่า ไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่ออะไร? ทำไมถึงอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ? แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน บางคนก็ไปด้วยเป้าหมายอยากเพิ่มพูดความรู้ อยากได้วุฒิการศึกษาที่สูงขึ้นจากมหาวิทยาลัยในประเทศมหาอำนาจ บางคนก็ไปด้วยเป้าหมายเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษ เมื่อน้อง ๆ มีเป้าหมายที่ชัดเจน จะทำให้สามารถวางแผนการเรียนได้ตรงกับความพร้อมของเรามากที่สุดนั่นเองค่ะ
2. เลือกคอร์สเรียน หลักสูตรที่ตอบโจทย์
เมื่อเราตอบตัวเองได้แล้วว่า ไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่ออะไร ต่อมาก็ต้องมองหาคอร์สเรียน หรือหลักสูตรที่จะมาเติมเต็มเป้าหมายของเราให้สำเร็จ ซึ่งคอร์สเรียนที่เปิดสอนในต่างประเทศนั้นมีให้เลือกมากมาย น้อง ๆ ต้องคำนึงถึงศักยภาพ ความชอบ และความสนใจของตัวเองเป็นหลัก ถ้าไปเรียนต่อเพื่อพัฒนาภาษา ก็มองหาคอร์สระยะสั้นที่เจาะลึกภาษาโดยเฉพาะ แต่ถ้าอยากเรียนต่อระดับปริญญา ก็ต้องโฟกัสไปที่ตัวหลักสูตรและสาขาที่สนใจ ซึ่งก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การศึกษา (Education) บริหารธุรกิจ (Business) การตลาดออนไลน์ (Marketing) หรือการแพทย์และสุขภาพ เป็นต้น
3. มองหาประเทศและเมืองที่ใช่
ประเทศและเมืองก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน น้อง ๆ หลายคนอาจจะมีประเทศที่ใช่ เมืองที่ชอบในดวงใจอยู่แล้ว แต่ถ้าใครยังไม่มีก็ลองพิจารณาประเทศที่คนนิยมไปเรียนต่อก็ได้นะคะ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา เป็นต้น ทั้งนี้อย่าลืมศึกษาข้อมูลของประเทศและเมืองนั้น ๆ ให้ดีก่อน เพราะแต่ละที่ย่อมมีเอกลักษณ์ในฉบับของตัวเอง หากเลือกประเทศและเมืองที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรา ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้อย่างมีความสุข
4. ศึกษาค่าครองชีพ
แน่นอนว่าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ น้อง ๆ ต้องศึกษาค่าครองชีพของเมืองที่สนใจด้วยนะคะ เพราะบางครั้งเมืองที่ถูกใจแต่ค่าใช้จ่ายอาจจะไม่สบายกระเป๋าได้ ใครที่อยากเลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ อาจมองหาเมืองที่มีค่าครองชีพดีต่อใจ เพราะยังมีเมืองที่การศึกษาโดดเด่น ค่าครองชีพถูกให้เราเลือกมากมาย เช่น แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ, แคนเบอร์รา โกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
5. ศึกษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิต
การไปเรียนต่อประเทศจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่เป็นระยะเวลานาน ดังนั้นน้อง ๆ ต้องศึกษาวัฒนธรรม สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ของคนในเมืองนั้น ๆ เพื่อให้เราประเมินตัวเองคร่าว ๆ ได้ว่าจะสามารถอยู่ได้หรือไม่ ต้องปรับตัวอะไรเพิ่มเติมไหม นอกจากนี้ควรศึกษาเรื่องสภาพอากาศในแต่ละฤดู โดยเฉพาะน้อง ๆ เพราะหากปรับตัวไม่ทัน จะทำให้เจ็บป่วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนในระยะยาวได้ค่ะ
6. การขอวีซ่า
จะไปเรียนต่อต่างประเทศได้ น้อง ๆ จำเป็นต้องมีวีซ่านักเรียนเพื่อรับอนุญาตให้เรียนต่อยังประเทศนั้น ๆ ได้ คงเป็นเรื่องน่าเสียดายไม่น้อยนะคะ หากได้รับการตอบรับเข้าเรียน แต่ไม่สามารถที่ไปเรียนต่อได้อย่างใจหวัง เพราะไม่มีวีซ่านักเรียน ดังนั้นน้อง ๆ จึงควรศึกษาเรื่องการขอวีซ่า ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ต้องเตรียม ขั้นตอนต่าง ๆ โดยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินการขอวีซ่า หรือที่เราเรียกกันว่าเอเจนท์ได้ค่ะ
7. ความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ
การไปเรียนต่อต่างประเทศ ภาษาอังกฤษสำคัญมาก นอกจากจะใช้สำหรับสื่อสารในชีวิตประจำวันแล้ว ยังจำเป็นสำหรับการสอบวัดระดับต่าง ๆ ที่ต้องใช้สมัครเรียนต่อ ไม่ว่าจะเป็น IELTS TOEFL หรือ SAT น้อง ๆ คนไหนที่รู้ตัวว่าภาษาอังกฤษยังเป็นจุดอ่อนของตัวเองอยู่ แนะนำให้ฝึกทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนเป็นประจำ หรือลงเรียนคอร์สติวสอบโดยเฉพาะเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถคว้าคะแนนสอบได้ตามเกณฑ์ที่หลักสูตรหรือสถาบันกำหนดนั่นเองค่ะ
8. เป้าหมายหลังเรียนจบ
การไปเรียนต่อต่างประเทศถือเป็นการลงทุนด้านการศึกษาที่ใช้เงินค่อนข้างมาก ดังนั้นน้อง ๆ ควรตั้งเป้าหมายว่าหลังจากเรียนจบ จะนำความรู้ ทักษะภาษาอังกฤษ หรือประสบการณ์ชีวิตที่ได้ไปต่อยอดอย่างไร รวมถึงมองหาโอกาสในการทำงานหลังเรียนจบ เพื่อให้การไปเรียนต่อต่างประเทศของเราไม่เสียเปล่า
การเตรียมตัวเรียนต่อระดับมัธยมที่ต่างประเทศ
ต่อไปลองมาดูการเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศในแต่ละช่วงกันบ้าง
สำหรับการเตรียมตัวเรียนต่อระดับมัธยมในต่างประเทศต้องวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 ปี เริ่มจากพื้นฐานด้านภาษา น้อง ๆ ควรมีคะแนนสอบภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐาน เช่น TOEFL หรือ IELTS ในส่วนของผลการเรียน โรงเรียนต่างประเทศส่วนใหญ่ต้องการนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 โดยเฉพาะวิชาหลักอย่างคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ กิจกรรมเสริมหลักสูตรก็มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมชมรม การแข่งขันทางวิชาการ หรือกิจกรรมจิตอาสา
ด้านที่พักและการใช้ชีวิต มีทางเลือกระหว่างพักกับครอบครัวอุปถัมภ์ (Host Family) หรือหอพักของโรงเรียน ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีต่างกัน การพักกับโฮสต์แฟมิลี่จะช่วยให้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมได้เร็ว ในขณะที่หอพักจะสะดวกในการเดินทางและการทำกิจกรรมกับเพื่อน ค่าใช้จ่ายโดยรวมต่อปีอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านบาท ครอบคลุมค่าเล่าเรียน ที่พัก อาหาร ประกันสุขภาพ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
เรื่องการปรับตัว ผู้ปกครองควรเตรียมความพร้อมให้น้อง ๆ ในด้านการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การซักผ้า การจัดการเงิน การดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วย และทักษะการสื่อสารกับผู้อื่น การฝึกความเป็นอิสระและความรับผิดชอบต่อตนเองควรเริ่มตั้งแต่อยู่ที่บ้าน เพื่อลดความกังวลเมื่อต้องไปอยู่ต่างประเทศ
การเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาตรีที่ต่างประเทศ
การเตรียมตัวเรียนต่อระดับปริญญาตรีต้องเริ่มวางแผนตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย คะแนนภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น IELTS หรือ TOEFL นอกจากนี้ บางประเทศอาจต้องการคะแนนมาตรฐานอื่น ๆ เช่น SAT หรือ ACT อีกด้วย สำหรับผลการเรียน พี่แนะนำว่า ควรทำเกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) 3.25 ขึ้นไป โดยเฉพาะในวิชาที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่อยากเรียนต่อ จะเซฟที่สุดค่ะ
การเตรียมเอกสารประกอบการสมัครมีความสำคัญมาก ต้องมี Statement of Purpose ที่โดดเด่น จดหมายแนะนำตัวจากอาจารย์ Portfolio แสดงผลงานและกิจกรรมที่เคยทำ และหลักฐานความสามารถพิเศษต่าง ๆ ด้านทุนการศึกษา มีทั้งทุนรัฐบาล ทุนของมหาวิทยาลัย และทุนจากองค์กรเอกชน ซึ่งควรเริ่มหาข้อมูลและเตรียมตัวสมัครล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี
ค่าใช้จ่ายในการศึกษาระดับปริญญาตรีค่อนข้างสูง เฉลี่ยประมาณ 1-2 ล้านบาทต่อปี ขึ้นอยู่กับประเทศและสถาบัน ครอบคลุมค่าเล่าเรียน ที่พัก อาหาร ประกันสุขภาพ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว การหางานพิเศษระหว่างเรียนอาจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้ แต่ต้องศึกษากฎหมายการทำงานของนักศึกษาต่างชาติในแต่ละประเทศให้ดีนะคะ
การเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ
การเรียนต่อระดับปริญญาโทต้องเตรียมตัวทั้งด้านวิชาการและประสบการณ์การทำงาน คะแนนภาษาอังกฤษต้องอยู่ในเกณฑ์สูงทั้ง IELTS UKVI หรือ TOEFL บางสาขาอาจต้องการคะแนน GRE หรือ GMAT ส่วนผลการเรียนระดับปริญญาตรีควรมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 แต่มหาวิทยาลัยชั้นนำมักต้องการ 3.50 ขึ้นไป
นอกจากนี้ เวลาจะสมัครเรียนต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะปริญญาโท-เอก น้อง ๆ จะต้องเขียนจดหมายแนะนำตัว (Personal Statement) และจดหมายรับรอง (Letter of Reccommendation) ในบางมหาวิทยาลัยจะกำหนดให้เราเขียน แผนงานวิจัย (Research Plan) เพื่อประกอบการพิจารณาการสมัครอีกด้วย ดังนั้นต้องเตรียมพร้อมตรงนี้ให้ดีนะคะ
ด้านทุนการศึกษา มีทั้งทุนรัฐบาล ทุนมหาวิทยาลัย และทุนองค์กรต่าง ๆ การสมัครทุนควรเริ่มก่อนเรียนอย่างน้อย 1 ปี และควรสมัครหลาย ๆ ทุนเพื่อเพิ่มโอกาส ค่าใช้จ่ายโดยรวมประมาณ 1-2 ล้านบาทต่อปี สำหรับหลักสูตร 1-2 ปี นอกจากนี้ ควรศึกษาโอกาสการทำงานหลังจบการศึกษา เพราะบางประเทศอนุญาตให้อยู่หางานต่อได้ระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ
ทั้งหมดนี้ ก็คือ 8 สิ่งสำคัญที่อยากให้น้อง ๆ ทุกคนคำนึงถึง ซึ่งการไปเรียนต่อต่างประเทศ เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โอกาสทางการศึกษาให้กับตัวเอง น้อง ๆ ต้องเตรียมพร้อมอย่างดี โดยเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เลือกคอร์สและหลักสูตรที่ตอบโจทย์กับเป้าหมายของเรา เลือกประเทศและเมืองที่จะไปศึกษาต่อ รวมทั้งต้องพิจารณาทั้งค่าครองชีพ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่เราสามารถปรับตัวได้ และที่สำคัญต้องมีเป้าหมายชัดเจนว่าหลังเรียนจบต้องการทำอะไร เพื่อวางแผนการเรียนให้สอดคล้องกับเส้นทางอาชีพในอนาคต
นอกจากนี้ อย่าลืมว่า การเตรียมตัวในแต่ละระดับการศึกษามีความแตกต่างกัน ระดับมัธยมเน้นการปรับตัวด้านการใช้ชีวิตและพื้นฐานภาษา ระดับปริญญาตรีต้องการคะแนนภาษาที่สูงขึ้น เกรดเฉลี่ย 3.25 ขึ้นไป พร้อมทั้งเตรียมแฟ้มสะสมผลงานที่โดดเด่น ส่วนระดับปริญญาโทนอกจากคะแนนภาษาและเกรดเฉลี่ยที่สูงแล้ว ยังต้องมีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้อง โดยทุกระดับมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1-2 ล้านบาทต่อปี ซึ่งควรวางแผนการเงินและหาแหล่งทุนการศึกษาล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 ปี
หากน้อง ๆ คนไหนอยากทำคะแนนภาษาอังกฤษให้ได้สูง ๆ เพื่อสมัครเรียนต่อ ไม่ว่าจะเป็น GED, IGCSE, IELTS, SAT ที่ The Advisor Academy มีคอร์สเรียนที่น้อง ๆ จะได้เรียนกับครูที่มีประสบการณ์สอนโดยตรง และมีความเชี่ยวชาญในข้อสอบหลักสูตรอินเตอร์โดยเฉพาะ ไม่เก่งภาษาอังกฤษ หรือไม่เคยเรียนหลักสูตรอเมริกันมาก่อน พี่ ๆ ก็พร้อมปูพื้นฐานและติวเข้มจนน้อง ๆ สอบผ่าน สนใจคอร์สเรียนติดต่อ The Advisor ได้เลยนะคะ