GED Science คืออะไร? รวมเรื่องต้องรู้ก่อนสอบ

GED Science คืออะไร รวมเรื่องต้องรู้ก่อนสอบ

สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ การเทียบวุฒิเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี คงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการสอบ GED Science กันมาบ้างแล้ว ว่าถ้าหากอยากที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีก่อนที่จะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถทำได้ด้วยการใช้คะแนนสอบ GED ดังนั้นเพื่อเป็นตัวช่วยในการเตรียมสอบให้แก่คุณ บทความนี้เราจะมาพูดกันถึงการสอบ GED และ GED เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ รวมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้สอบต้องรู้ก่อนสอบ มาดูกันว่าหากต้องการสอบ GED มีเรื่องอะไรบ้างที่ควรทำความเข้าใจ

การสอบ GED Science คืออะไร?

2 GED Science คืออะไร

การสอบวิชาวิทยาศาสตร์ของระบบ GED หรือชื่อเต็ม ๆ General Educational Development โดยเนื้อหาจะเป็นการสอบที่เน้นทางด้านของการอ่านและการเขียน ในเชิงวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ หรือการใช้เหตุผลเชิงคณิตศาสตร์ในวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะมีเวลาในการทำข้อสอบทั้งหมด 90 นาทีด้วยกัน และจะมีการอนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขบนหน้าจอของคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ในการทำข้อสอบได้ อีกทั้งยังมีสนามสอบให้เลือกทั้งในจังหวัดกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดอีกด้วย

เนื้อหาหลักในข้อสอบ GED Science

3 GED Science เนื้อหาออกอะไรบ้าง

สำหรับเนื้อหาที่มีในข้อสอบ จะมีลักษณะข้อสอบเป็นแบบการอ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงมีการสอบเกี่ยวกับการอ่านตัวเลข และรูปภาพที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ โดยจะมีเนื้อหาดังนี้:

 

  • ชีววิทยา (Life Science) – ครอบคลุมเรื่องเซลล์ พันธุกรรม การเจริญเติบโต และระบบนิเวศ
  • โลกและอวกาศ (Earth and Space Science) – ศึกษาเรื่องธรณีวิทยา ภูมิอากาศ และระบบสุริยะ
  • ฟิสิกส์ (Physical Science) – ครอบคลุมพลังงาน แรง การเคลื่อนที่ และคุณสมบัติของสสาร

 

การเตรียมตัวสำหรับแต่ละสาขาวิชาต้องมีการทำความเข้าใจพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้สามารถตอบคำถามได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งข้อสอบมักจะใช้กราฟ ตาราง และข้อมูลเชิงสถิติประกอบคำถาม

ตัวอย่างข้อสอบ

Topic: Earth and Space Science – Climate Change
Question Type: Multiple Choice (Data Interpretation)

Passage:
The graph below shows the average global temperatures from the year 1900 to 2000.

GED Science chart showing the rise in average global temperatures from 1900 to 2000, increasing from 13.6°C to 14.5°C

Question: Based on the data in the table, which of the following statements is most accurate?

a) Global temperature remained constant between 1900 and 2000.
b) Global temperature decreased gradually during the 20th century.
c) Global temperature increased, with the most significant rise after 1980.
d) The highest temperature was recorded in 1940 and decreased afterward.

Answer:

c) Global temperature increased, with the most significant rise after 1980.

คำอธิบาย:

จากข้อมูลในตารางจะเห็นว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลก เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วง ปี 1980 (14.2°C) ถึงปี 2000 (14.5°C) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่ชัดเจนมากที่สุดในตาราง ข้อมูลนี้สะท้อนถึงแนวโน้มโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เร่งขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20

เกณฑ์คะแนนที่ควรได้สำหรับ GED Science

สำหรับวิชาวิทยาศาสตร์ทั้งหมดจะมีข้อสอบอยู่ที่ประมาณ 38 ข้อ และจะมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 200 คะแนน โดยผู้สอบควรที่จะทำคะแนนให้ได้ 145 คะแนนขึ้นไป จึงจะถือว่าผ่านสำหรับการสอบวิชานี้ และผู้สอบจะทราบผลคะแนนได้หลังการสอบ 5-30 นาทีโดยประมาณ ผ่านทางอีเมล

คะแนนจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ

  • Not Passing (100-144)
  • High School Equivalency (145-164)
  • College Ready (165-174),
  • College Ready + Credit (175-200)

 

ซึ่งคะแนนที่สูงขึ้นจะเป็นประโยชน์ในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย

ข้อมูลค่าใช้จ่ายในการสอบ

ค่าสมัครสอบจะอยู่ที่ $75 ต่อครั้ง ซึ่งในการสอบ GED แต่ละวิชาจะมีการกำหนดโควต้าในการสอบทั้งหมดอยู่ที่ 3 ครั้งด้วยกัน หากน้อง ๆ สมัครสอบและสอบไม่ผ่าน คุณสามารถที่จะทำการสมัครสอบได้ตามจำนวนโควต้า แต่หากครบ 3 ครั้งแล้วยังสอบไม่ผ่าน คุณจะต้องรอ 60 วัน เพื่อทำการสมัครใหม่ แต่หากยังสอบไม่ผ่านอีก และต้องการที่จะสอบใหม่ก็จะต้องรอ 60 วัน คุณจะไม่สามารถสมัครสอบใหม่ติดกันได้ในทันทีอย่างเช่นช่วงแรก

คุณสมบัติผู้สอบ GED ที่ควรรู้ก่อนสมัครสอบ

การสอบ GED เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ที่ไม่ได้เรียนจบมัธยมปลาย สามารถเทียบวุฒิและเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัยได้อย่าง แต่ก่อนที่จะลงทะเบียนสอบ GED น้องๆควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สอบ GED เพื่อเตรียมความพร้อมและมั่นใจว่าสามารถสมัครสอบได้อย่างไม่มีปัญหา

  • อายุและระดับการศึกษา
    โดยทั่วไปผู้ที่จะสมัครสอบ GED ต้องมีอายุอย่างน้อย 16 ปีขึ้นไป
  • สถานะการศึกษาและการยื่นสมัคร
    ผู้สอบ GED ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเรียนในโรงเรียนหรือสถาบันใดๆ
  • ความสามารถทางภาษาและการเตรียมตัว
    สำหรับผู้สอบ GED ควรมีความเข้าใจพื้นฐานทางภาษาอังกฤษในระดับที่สามารถอ่านและทำความเข้าใจข้อสอบได้ เนื่องจากข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ดังนั้นจึงควรฝึกฝนทักษะการเขียนและการคิดวิเคราะห์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
  • เอกสารที่ต้องเตรียม
    หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ

เทคนิคเตรียมสอบให้ได้ผล

4 เทคนิคพิชิต GED Science

อย่างที่ได้มีการกล่าวไปในหัวข้อที่แล้ว ว่าการสอบนั้น จะโควต้าในการสอบที่สามารถสอบต่อเนื่องได้ทันที หากสอบไม่ผ่านได้ 3 ครั้งด้วยกัน แต่หากสอบไม่ผ่านภายในช่วงโควต้า จะต้องเสียเวลาในการรออีก 60 วัน และอาจจะต้องใช้เวลานานในการสอบ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกสอบ GED แต่ละวิชา แนะนำว่าผู้สมัครสอบควรที่จะเตรียมตัว และเตรียมความพร้อมให้ดีเสียก่อน โดยวิธีการเตรียมตัวอาจทำได้โดยการ

  • หมั่นท่องคำศัพท์สาย Science
  • อ่านความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
  • ฝึกทำข้อสอบจริงก่อนสอบ
  • เตรียมความพร้อมก่อนสอบด้วยการทำข้อสอบ GED Ready

สรุป

และนี่คือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการสอบ GED วิทยาศาสตร์ ที่ The Adviser Academy ของเราแนะนำว่าผู้ที่สนใจสมัครสอบ ควรที่จะต้องทำความเข้าใจและรู้เอาไว้ก่อนล่วงหน้า หากอ่านกันมาถึงบทสรุปส่งท้ายนี้แล้ว ทางโรงเรียน The Adviser Academy ของเรา ก็ขออวยพรให้ผู้ที่สนใจ สามารถทำข้อสอบ GED ได้คะแนนเต็ม และสามารถยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เลือกสอบ และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็นกับการสอบ GED หรือการสอบอื่น ๆ สามารถอ่านบทความดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ผ่านทางเว็บไซต์ของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะเลือกติวสอบ GED ที่โรงเรียนติว The Adviser Academy ก็ได้เช่นเดียวกัน!

พิเศษ! คอร์สเรียน GED จบ ม. 6 ภายใน 1-3 เดือน!

หากน้อง ๆ ต้องการสอบเทียบวุฒิ จบ ม.6 ภายใน 1–3 เดือน อย่างมั่นใจ พร้อมเข้าใจแนวข้อสอบจริง และเทคนิคพิชิตคะแนนสูง แนะนำให้สมัครเรียนกับเราได้ที่ คอร์ส GED กับ The Adviser Academy หรือหากต้องการคำแนะนำเฉพาะตัว สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการสอบ GED ได้ฟรี ที่ Line:@theadvisor