สอบเทียบ IGCSE กับ GED ต่างกันยังไง สอบตัวไหนดี
IGCSE และ GED เป็นการสอบเทียบวุฒิยอดนิยมที่หลายครอบครัวให้ความสนใจ แต่หลายคนอาจจะยังสับสนว่า การสอบทั้งสองแบบนี้มันต่างกันยังไง แล้วเราควรจะเลือกสอบแบบไหนดี วันนี้พี่ The Advisor จะพาน้อง ๆ มาไขข้อข้องใจเรื่อง IGCSE กับ GED ต่างกันยังไง รวมถึงช่วยน้อง ๆ ตัดสินใจว่า IGCSE กับ GED อันไหนดีกว่า สำหรับเป้าหมายทางการศึกษาของน้อง ๆ กันค่ะ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปหาคำตอบกันเลย!
รู้จักการสอบเทียบ IGCSE และ GED
ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกถึงความแตกต่าง เรามาทำความรู้จักกับการสอบเทียบทั้งสองแบบนี้กันก่อนนะคะ
IGCSE คืออะไร
IGCSE ย่อมาจาก International General Certificate of Secondary Education เป็นหลักสูตรการศึกษาของประเทศอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล น้อง ๆ สามารถนำผลสอบนี้ไปใช้ยื่นเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ทั้งในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นแคนาดา สวีเดน สิงคโปร์ หรือแม้แต่มหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยเองก็รับเช่นกันค่ะ ที่สำคัญคือ IGCSE ยังเป็นการปูพื้นฐานความรู้เพื่อให้น้อง ๆ ได้ไปต่อยอดในการสอบ A-Level ที่ถือเป็นการเทียบวุฒิ ม.6 ต่อไปอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นใบเบิกทางที่สำคัญเลยค่ะ
GED คืออะไร
GED ย่อมาจาก General Educational Development เป็นการสอบเทียบวุฒิระดับมัธยมปลายตามหลักสูตรของประเทศสหรัฐอเมริกา การสอบนี้เปิดโอกาสให้น้อง ๆ ที่ไม่ได้เรียนตามหลักสูตรมัธยมปลายปกติ หรือเรียนหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน ได้มีวุฒิเทียบเท่า ม.6 เพื่อใช้ในการสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ วุฒิ GED ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในมหาวิทยาลัยเกือบทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา รวมถึงหลายประเทศทั่วโลก เช่น มาเลเซีย แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแน่นอนว่ามหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งในประเทศไทยก็รับวุฒิ GED เช่นกันค่ะ
เปรียบเทียบ IGCSE กับ GED ต่างกันยังไง
ตอนนี้เราพอจะเข้าใจแล้วว่า IGCSE และ GED คืออะไร คราวนี้เรามาดูกันชัด ๆ เลยว่า IGCSE กับ GED ต่างกันยังไง ในแต่ละแง่มุม เพื่อให้น้อง ๆ เห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
1. วิชาที่สอบ
สำหรับ IGCSE มีวิชาให้เลือกสอบหลากหลายมากถึง 70 วิชา ใน 6 กลุ่มหลัก ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Creative and Professional, English Language and Literature, Humanities and Social Sciences, Language, Mathematics และ Science น้อง ๆ สามารถเลือกวิชาที่ตัวเองถนัดหรือสนใจได้เลย ส่วนใหญ่แล้วหลักสูตร IGCSE จะใช้เวลาเตรียมตัวประมาณ 2 ปี และจะมีการสอบในช่วงท้ายของการเรียนจบค่ะ
ในทางกลับกัน GED มีวิชาที่สอบเพียง 4 รายวิชาเท่านั้นค่ะ ได้แก่ Reasoning Through Language Arts (RLA) ซึ่งทดสอบทักษะภาษาอังกฤษทั้งการอ่าน การเขียน และไวยากรณ์, Mathematical Reasoning เป็นข้อสอบคณิตศาสตร์พื้นฐานทั่วไป, Social Studies ทดสอบความรู้สังคมศึกษาของประเทศอเมริกา และ Science ทดสอบความรู้พื้นฐานวิทยาศาสตร์ การสอบ GED จึงเน้นวิชาหลัก ๆ ที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
2. อายุที่สมัครสอบได้
น้อง ๆ ที่สนใจสอบ IGCSE ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีอายุประมาณ 14-16 ปีบริบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศหรือบางศูนย์สอบของ Cambridge IGCSE ก็อาจจะไม่ได้กำหนดอายุที่แน่นอนนะคะ ซึ่งความยืดหยุ่นตรงนี้ทำให้น้อง ๆ ที่มีพื้นฐานความรู้ดีอยู่แล้ว สามารถเตรียมตัวสอบได้ตั้งแต่อายุยังน้อยได้เลย
ส่วนการสอบ GED จะเปิดให้ผู้สอบที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสมัครสอบได้เลยค่ะ แต่ถ้าน้อง ๆ อายุยังไม่ถึง 18 ปี แต่อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี ก็สามารถสมัครสอบได้ แต่จะต้องมีจดหมายยินยอมจากผู้ปกครอง (Parental Consent Form) ยื่นประกอบด้วย
3. การผ่านเกณฑ์
สำหรับ IGCSE คะแนนจะแบ่งออกเป็นเกรด ตั้งแต่ A* A B C D E F U ค่ะ โดยเกณฑ์การผ่านคือต้องได้เกรดไม่ต่ำกว่า C ใน 5 วิชาขึ้นไป ซึ่งการที่แบ่งเป็นเกรดแบบนี้ จะทำให้น้อง ๆ สามารถเห็นระดับความสามารถของตัวเองในแต่ละวิชาได้ชัดเจนเลยค่ะ
ในส่วนของ GED คะแนนจะแบ่งเป็นแต่ละวิชา โดยแต่ละวิชาเต็ม 200 คะแนน น้อง ๆ จะต้องได้คะแนนอย่างน้อย 145 คะแนนในแต่ละวิชาจึงจะถือว่าสอบผ่าน
4. การนำไปใช้
เมื่อพูดถึงการนำผลสอบไปใช้ประโยชน์ นี่คือจุดที่น้อง ๆ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่า IGCSE กับ GED อันไหนดีกว่า อันไหนเหมาะสำหรับเป้าหมายของตัวเองค่ะ
วุฒิเทียบ IGCSE สามารถนำไปใช้สมัครเรียนในมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทยที่เปิดหลักสูตรนานาชาติได้ แต่มีข้อควรจำนิดหนึ่งนะคะว่า IGCSE เป็นเพียงวุฒิที่เทียบเท่ากับวุฒิ ม.4 เท่านั้น ดังนั้น น้อง ๆ จะต้องสอบ A-Level ซึ่งเทียบเท่ากับวุฒิ ม.6 ต่อจาก IGCSE เพื่อให้มีวุฒิที่ครบถ้วนสำหรับการเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยตามที่คณะและมหาวิทยาลัยกำหนดค่ะ
ในส่วนของวุฒิเทียบ GED เป็นการเทียบวุฒิ ม.6 ในประเทศไทย และมีมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งที่รับวุฒิเทียบ GED เพื่อเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติ น้อง ๆ ที่มีวุฒิ GED จึงสามารถนำไปยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัยได้โดยตรงเลย ซึ่งสะดวกและรวดเร็วสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา อย่างไรก็ตาม แต่ละคณะก็อาจมีเงื่อนไขและรับ GED ในบางสาขาและโครงการเท่านั้น น้อง ๆ จึงควรตรวจสอบระเบียบการรับสมัครของมหาวิทยาลัยที่สนใจให้ดีก่อนนะคะ
5. จำนวนครั้งในการจัดสอบ
IGCSE จะมีการจัดสอบปีละ 2 รอบ คือช่วงเดือนพฤษภาคม/มิถุนายน และช่วงเดือนตุลาคม/พฤศจิกายนของทุกปี
ส่วน GED นั้นมีความยืดหยุ่นสูงมากค่ะ น้อง ๆ สามารถสอบได้ตลอดทั้งปี ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการสอบ หากสอบไม่ผ่านวิชาไหน ก็สามารถสอบซ่อมเฉพาะวิชานั้น ๆ ได้เลย ซึ่งเหมาะมากสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดตารางสอบและการเตรียมตัวค่ะ
6. ค่าธรรมเนียมในการสอบ
ค่าธรรมเนียมในการสอบ IGCSE จะคิดเป็นรายวิชาที่สอบ โดยเริ่มต้น 8,000บาทขึ้นไป
ค่าธรรมเนียมในการสอบ GED จะคิดเป็นรายวิชาเช่นกันค่ะ โดยจะอยู่ที่ 85 USD/วิชา (ประมาณ 2,750 บาท)
IGCSE กับ GED อันไหนดีกว่า
หลังจากที่เราได้ทำความเข้าใจว่า IGCSE กับ GED ต่างกันยังไง หลายคนคงเริ่มสงสัยว่าแล้วตกลง IGCSE กับ GED อันไหนดีกว่า กันแน่ใช่ไหมคะ พี่อยากจะบอกว่า จริง ๆ แล้วไม่มีตัวไหนที่ดีกว่ากันแบบตายตัว เพราะทั้งสองแบบมีข้อดีและเหมาะกับน้อง ๆ ที่มีเป้าหมายและรูปแบบการเรียนที่แตกต่างกันค่ะ
ถ้าเป้าหมายของน้อง ๆ คือการเรียนต่อในสหราชอาณาจักร หรืออยากปูพื้นฐานแน่น ๆ เพื่อเตรียมสอบ A-Level การสอบเทียบ IGCSE อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะเป็นหลักสูตรที่มีความหลากหลายทางวิชาการและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระบบการศึกษาแบบอังกฤษ
แต่ถ้าน้อง ๆ ต้องการวุฒิ ม.6 ที่รวดเร็ว มีความยืดหยุ่นสูง สอบได้ตลอดทั้งปี และต้องการเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา หรือมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยที่รับวุฒิ GED การสอบเทียบ GED ก็เป็นทางเลือกที่ดีเลยค่ะ
สรุปบทความ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้น้อง ๆ เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง IGCSE กับ GED ต่างกันยังไง และช่วยตัดสินใจได้ว่า IGCSE กับ GED อันไหนดีกว่า สำหรับเส้นทางของตัวเองนะคะ ไม่ว่าน้อง ๆ จะเลือกเส้นทางไหน การเตรียมตัวที่ดีคือหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จค่ะ
สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังมองหาสถาบันที่จะช่วยเตรียมความพร้อมในการสอบ The Advisor Academy สถาบันติวสอบหลักสูตรอินเตอร์ชั้นนำ มีคอร์สเรียน IELTS คอร์สติว GED คอร์สติว IGCSE และคอร์สติว SAT ที่ช่วยน้อง ๆ เตรียมความพร้อมก่อนลงสนามสอบได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะกำลังมองหาคอร์สเรียนวิชาไหน หรือไม่แน่ใจว่าเรียน IELTS ที่ไหนดี เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำแนวทางการเรียนที่เหมาะกับน้อง ๆ ทุกคน สอบถามเพิ่มเติมติดต่อพี่ The Advisor มาได้เลยค่า