สอบ GED ต้องลาออกจากโรงเรียนไหม? ไขข้อสงสัยให้ชัด!

ตอบข้อสงสัย-มีคะแนนสอบ-GED-แล้วต้องลาออกไหม

สอบ GED ต้องลาออกจากโรงเรียนไหม? คำถามนี้เจอบ่อยมาก โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่ยังเรียนอยู่แล้วเริ่มสนใจสอบเทียบ GED เพื่อยื่นสมัครมหาวิทยาลัยในไทยหรือต่างประเทศ ความจริงคือ ไม่จำเป็นต้องลาออกทันที ก็สามารถสมัครสอบได้ แต่ถ้าคิดจะเลือกเส้นทาง GED อย่างจริงจัง ควรปรึกษาผู้ปกครองและครูแนะแนวเพื่อวางแผนให้เหมาะกับตัวเอง พี่ ๆ Advisor รวมคำตอบแบบละเอียดไว้ในบทความนี้แล้ว และสำหรับน้อง ๆ คนไหนที่กำลังมองหาสถาบันเตรียมความพร้อมเพื่อ ติวสอบ GED หรืออยากรู้ข้อมูลสอบเทียบ GED เข้าคณะอะไรได้บ้าง พี่ ๆ Advisor พร้อมเป็นที่ปรึกษาให้กับน้อง ๆ ทุกคน สอบถามเข้ามาได้เลย

สอบ GED ต้องลาออกจากโรงเรียนไหม?

สอบ GED แล้วต้องลาออกไหม จำเป็นหรือเปล่า

คำตอบ คือ ไม่จำเป็นต้องลาออก น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ GED ควบคู่ไปกับการเรียนได้เลย เพียงแต่จัดสรรเวลาให้เหมาะสม อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนด้วยน้า ถ้าคะแนนสอบ GED เป็นที่น่าพอใจ หรือไม่ต่ำกว่า 145 คะแนน ก็สามารถนำไปยื่นสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้เลย

สอบ GED ตอนเรียนอยู่ได้ไหม?

คำถามนี้เจอบ่อยมากจากน้อง ๆ ม.ปลายที่เริ่มสนใจเส้นทางการศึกษาทางเลือกอย่าง GED คำตอบคือ สามารถสอบได้แม้จะยังเรียนอยู่ในโรงเรียน เพราะการสมัครสอบ GED ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องลาออกจากระบบการศึกษาปกติก่อน แต่สิ่งสำคัญคือ น้อง ๆ ควรพิจารณาให้รอบคอบว่า GED เหมาะกับเป้าหมายของตัวเองหรือไม่

 

การสอบ GED เหมาะกับคนที่ต้องการใช้วุฒิเทียบเท่าม.ปลายเพื่อสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัย หรือไปศึกษาต่อต่างประเทศ หากน้อง ๆ ยังไม่แน่ใจว่าจะลาออกดีไหม หรือจะเรียนไปพร้อมกับเตรียมสอบ GED ก็สามารถทำทั้งสองอย่างได้ แต่ต้องมีการวางแผนและบริหารเวลาให้ดี

สอบ GED ต้องลาออกจากโรงเรียนไหม?

ยังเรียนไม่จบ ม.ปลาย สอบ GED ได้ไหม?

คำตอบคือ สามารถสอบ GED ขณะเรียน ม.ปลายอยู่ได้ โดยต้องมีอายุอย่างน้อย 16 ปี และหากอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องใช้เอกสารยินยอมจากผู้ปกครองเพิ่มเติมในการสมัครสอบ

สอบ GED ต้องลาออกจากโรงเรียนไหม?

ข้อดีของการเลือกสอบ GED สำหรับนักเรียนชั้นม.ปลาย

ถึงการสอบ GED จะมีคะแนนที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานอยู่ในระดับสูง แต่ก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้น้อง ๆ สมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ง่ายขึ้นเช่นกัน เพราะเป็นการสอบในระดับมาตรฐานสากล ดังนั้นสำหรับนักเรียนมัธยมปลายที่มีเป้าหมายชัดเจนเรื่องการเรียนต่อ หรืออยากวางแผนอนาคตการศึกษาให้เร็วขึ้น การเลือกสอบ GED ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีข้อดีหลายด้าน ดังต่อไปนี้

1. ร่นระยะเวลาในการเรียนลง

ผลสอบ GED มีสถานะเทียบเท่ากับวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ดังนั้น นักเรียนที่ยังเรียนไม่จบม.6 แต่สอบผ่านครบทั้ง 4 วิชา ก็สามารถนำคะแนนไปยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัยที่รับ GED ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอเรียนจบในระบบปกติ ซึ่งหมายถึงการประหยัดเวลาอย่างน้อย 2–3 ปี และสามารถเข้าสู่ระดับปริญญาตรีได้เร็วขึ้น

2. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน

การสอบ GED มีค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 9,987.15 บาท (รวมทั้ง 4 วิชา) เมื่อเทียบกับค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ ค่ากิจกรรม รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ ตลอดช่วงมัธยมปลายที่อาจใช้เวลาหลายปี ถือว่า GED เป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้มาก โดยเฉพาะในครอบครัวที่ต้องการวางแผนการเงินด้านการศึกษาล่วงหน้า

3. สามารถยื่นเข้ามหาวิทยาลัยต่างประเทศได้หลายที่

คะแนน GED ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย หรือมหาวิทยาลัยนานาชาติในไทยหลายแห่ง ทั้งหลักสูตรอินเตอร์และบางหลักสูตรภาคไทย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่มีแนวทางการรับนักศึกษาแบบเปิดกว้างและยืดหยุ่น การมีผลสอบ GED ช่วยให้นักเรียนมีทางเลือกมากขึ้น และสามารถวางแผนเส้นทางการศึกษาให้เหมาะสมกับตนเอง

4. ยืดหยุ่นในการวางแผนอนาคต

นักเรียนสามารถเลือกว่าจะสอบ GED ควบคู่กับการเรียนปกติ หรือจะลาออกแล้วมุ่งเตรียมตัวสอบอย่างเต็มที่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมและเป้าหมายของแต่ละคน บางคนอาจเลือกสอบ GED เพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศโดยตรง ขณะที่บางคนใช้ GED เป็นทางเลือกสำรอง หากไม่ต้องการเรียนในระบบเดิม การมีทางเลือกหลายแบบทำให้นักเรียนสามารถออกแบบเส้นทางชีวิตได้หลากหลายยิ่งขึ้น

GED สอบได้เมื่อไหร่?

การสอบ GED ไม่มีรอบสอบตายตัวเหมือนการสอบกลางของระบบการศึกษาไทย ผู้สมัครสามารถเลือกวันและเวลาสอบได้ตามสะดวกผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งศูนย์สอบ GED เปิดให้สอบตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 9:00 – 16:00 น. โดยเปิดให้สอบได้ตลอดทั้งปีเพียงแค่ลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ GED และเลือกสนามสอบใกล้บ้าน ซึ่งมีอยู่ในหลายจังหวัดของประเทศไทย

GED สามารถสอบได้กี่ครั้ง?

GED สามารถสอบได้กี่ครั้ง

การสอบ GED ไม่มีการจำกัดจำนวนครั้งในการสอบ ผู้สอบสามารถสอบซ้ำได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้คะแนนที่พอใจ อย่างไรก็ตาม ในแต่ละวิชา ผู้สอบสามารถสอบติดต่อกันได้ไม่เกิน 3 ครั้ง หากสอบครบ 3 ครั้งติดต่อกันแล้ว ยังไม่ได้คะแนนตามเป้าหมาย จะต้องรอเว้นช่วง 60 วัน ก่อนจึงจะสามารถลงทะเบียนสอบในครั้งถัดไปได้อีกครั้ง

คะแนนสอบ GED อยู่ได้กี่ปี?

คะแนนสอบ GED ไม่มีวันหมดอายุ หลังจากสอบผ่านน้อง ๆ จะได้รับประกาศนียบัตร และใบรายงานผลคะแนน

GED สอบออนไลน์ได้ไหม?

ในส่วนของการสอบ GED จะต้องเข้าสอบที่ศูนย์สอบที่ได้รับการรับรองเท่านั้น เพราะระบบสอบออนไลน์จากที่บ้าน (Online Proctored Test) ยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทยในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม น้องๆสามารถสอบ GED Ready ซึ่งเป็นแบบทดสอบจำลองก่อนสอบจริง ผ่านทางออนไลน์จากที่บ้านได้

วันสอบ GED ควรเตรียมอะไรไปบ้าง?

ในวันสอบ GED ผู้เข้าสอบต้องเตรียมเอกสารประจำตัวที่ใช้ยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยต้องนำบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ที่มีชื่อและตัวสะกดตรงกับข้อมูลที่ลงทะเบียนในระบบ GED ID เท่านั้น หากเอกสารไม่ตรงกันหรือมีความคลาดเคลื่อน จะไม่สามารถเข้าสอบได้ นอกจากนี้ควรตรวจสอบวัน เวลา และสถานที่สอบให้ชัดเจนก่อนวันจริง

สรุปบทความ "สอบ GED ต้องลาออกจากโรงเรียนไหม?"

เป็นที่รู้กัน การสอบ GED ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้น้อง ๆ สอบติดมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญสามารถเตรียมตัวสอบควบคู่ไปกับการเรียนปกติได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องตัดช่องทางการยื่นสมัครสอบใด ๆ เลย รู้ถึงข้อดีของการเลือกสอบ GED กันไปแล้ว อย่าลืมจัดสรรเวลามาติวสอบ GED กับพี่ Advisor น้า รวมเทคนิคการทำข้อสอบมาไว้ให้แล้ว

หากน้อง ๆ อยากเตรียมตัวสอบ GED อย่างมั่นใจ แนะนำให้ลงทะเบียนเรียนกับคอร์ส GED ของ The Adviser Academy ที่มีทั้งเนื้อหาครบ เทคนิคแน่น และทีมติวเตอร์พร้อมซัพพอร์ตทุกขั้นตอน และถ้าน้อง ๆ ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มยังไงดี สามารถขอคำแนะนำฟรีจากผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย ทาง Line: @theadvisor พี่ ๆ พร้อมช่วยวางแผนการสอบให้เหมาะกับแต่ละคนแบบตัวต่อตัว