การเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ นอกจากจะต้องมีผล IELTS หรือ TOFEL แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญลำดับต้น ๆ ไม่แพ้ผลการเรียน และผลการสอบวัดระดับต่าง ๆ คือ Statement of Purpose หรือเรียกสั้นๆ ว่า SOP นั่นเอง เพราะในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั้งในระดับปริญญาตรี โท หรือเอก ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยไหน Statement of Purpose ถือเป็นใบเบิกทางที่จะทำให้น้อง ๆ สามารถเข้าคณะที่ใช่ และมหาลัยที่ใฝ่ฝันได้นั่นเองค่ะ
แล้ว statement of purpose คืออะไร ? มีความสำคัญอย่างไร ? SOP กับ Motivational Letter ต่างกันยังไง ? วันนี้พี่ ๆ ที่ The Advisor จะมาไขข้อสงสัยให้กระจ่าง พร้อมแชร์เทคนิคการเขียน Statement of Purpose ยังไงให้ปัง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
Statement of Purpose คืออะไร?
Statement of Purpose คือ บทความแนะนำตัวที่น้อง ๆ จะต้องเขียนเพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเรา เช่น ประสบการณ์การเรียน การทำงานหรือทำกิจกรรม รวมถึงสิ่งที่น้อง ๆ ประสบความสำเร็จในอดีต
ซึ่ง Statement of Purpose ถือเป็นเอกสารสำคัญในการสมัครเรียนต่ออย่างยิ่งค่ะ ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับการเขียน Resume สมัครงาน เพื่อให้ได้งานนั่นเอง แต่ Statement of Purpose จะเป็นการสมัครเพื่อให้ได้เข้าเรียนต่อ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดแน่นอน ดังนั้นน้อง ๆ จะต้องเขียน Statement of Purpose ให้ออกมาโดดเด่นและแสดงความเป็นตัวเองออกมามากที่สุด
ความสำคัญของ Statement of Purpose
statement of purpose คือ เอกสารสำคัญที่เปิดโอกาสให้อาจารย์ในคณะนั้น ๆ รู้จักตัวตนของเรามากขึ้นและเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้บอกกับมหาวิทยาลัยว่าทำไมเราถึงอยากเข้าศึกษาที่นี่ มีเป้าหมายอะไร และทำไมมหาลัยจะต้องรับเราเข้าเรียน
SOP กับ Motivational Letter ต่างกันยังไง
SOP กับ Motivational Letter จะต่างกันตรงที่ Statement of Purpose หรือ SOP น้อง ๆ สามารถเขียนบอกเล่าตามสไตล์ของน้อง ๆ เองได้เลย ไม่มีหัวข้อที่ตายตัว เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของเราว่าเราเรียนหรือ เคยทำกิจกรรมอะไรมาบ้าง มีแรงบันดาลใจอะไรบ้าง เน้นการบอกเล่าเรื่องราวที่แสดงความเป็นตัวเองออกมามากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเขียนแค่ 2 หน้า และส่งให้กับทุกคณะในปริญญาตรี
ส่วน Motivational Letter น้อง ๆ จะต้องเขียนให้มีโครงสร้างที่ชัดเจน ตรงจุด เช่น มีการวางแผนในอนาคตยังไงบ้าง เน้นอธิบายความสำเร็จและเป้าหมายในชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเขียนแค่ 1 หน้าเท่านั้น และส่งให้กับหลักสูตรการวิจัยในระดับปริญญาเอก
เทคนิคการเขียน SOP ให้น่าสนใจ
- การเขียน SOP ที่ดีและให้น่าสนใจ เขียนถึงตัวตนของเราในด้านบวก โดยควรมีความยาวไม่เกิน 1-1.5 หน้าของกระดาษ A4 ค่ะ ในส่วนนี้แนะนำให้น้อง ๆ เขียนให้กระชับและมีความน่าสนใจ เขียนเปิดเรื่องให้มีความ Active เพื่อดึงดูดให้ผู้อ่านอยากอ่านต่อ
- คำศัพท์ที่ใช้ไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาทางการมาก แต่ก็ควรเป็นภาษาเขียนที่ดู Professional อ่านแล้วไม่สะดุดด้วยคำพูดที่ดูหรูหราจนเกินไป และต้องวางโครงเรื่องที่มีการเชื่อมต่อกัน
- หากใน Statement of Purpose น้อง ๆ มีการพูดถึงคุณสมบัติของตัวเอง พี่แนะนำว่าควรเขียนในสิ่งที่จับต้องได้และพิสูจน์ได้จะดีกว่าค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีตัวเลขเพื่อชี้วัดความสำเร็จจะเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากกว่าคำพูด
- และสิ่งสุดท้าย ๆ ของการเขียน Statement of Purpose พี่แนะนำว่าควรเขียนถึงเป้าหมายที่ชัดเจน และต้องมีความมั่นใจ หรือเขียนถึงงานอดิเรก หรือความสนใจที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่เลือกที่สามารถนำไปปรับใช้ในการศึกษาได้ ทำให้ผู้อ่าน ๆ แล้วรู้สึกได้ว่าเราต้องการเขียนเรียนคณะนี้ด้วยความตั้งใจจริง
สรุป
นอกจาก statement of purpose จะเป็นใบเบิกทางให้น้อง ๆ สามารถเข้าคณะที่ใช่ได้แล้ว statement of purpose คือ สิ่งที่ทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ว่าเราต้องการอะไร มีจุดมุ่งหมายอย่างไรบ้าง ซึ่งถ้าหากน้อง ๆ วางแผนอย่างมีลำดับขั้นตอน พี่เชื่อว่าน้อง ๆ สามารถไปถึงความสำเร็จนั้นได้แน่นอนค่ะ
หรือถ้าหากน้อง ๆ คนไหนที่อยากเรียนต่อต่างประเทศ ต้องการความช่วยเหลือ อยากรู้ว่าเขียนแนะนำตัวเองยังไงถึงจะเข้ามหาลัยได้ ก็สามารถปรึกษากับทางพี่ ๆ ที่ The Advisor ได้เลยนะคะ พี่ ๆ ทีมงานพร้อมดูแลและให้คำปรึกษาทั้งเรื่องการสอบรวมถึงช่วยวางแผนการเรียนต่อให้น้อง ๆ ฟรีอีกด้วยค่ะ