ทำความรู้จัก Duolingo English Test
เมื่อพูดถึงการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเพื่อใช้เรียนต่อ หลายคนคงจะนึกถึง IELTS หรือ TOELF เป็นอย่างแรก ๆ แต่รู้ไหมคะว่า ปัจจุบันมีการสอบรูปแบบหนึ่งที่มีชื่อว่า Duolingo หรือ Duolingo English Test การสอบที่มาพร้อมกับความสะดวกและรวดเร็ว เพราะสามารถทำข้อสอบที่ไหนก็ได้ ที่สำคัญ ใช้ยื่นเรียนต่อคณะอินเตอร์ได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ! แล้ว Duolingo สอบอะไรบ้าง ยากไหม ค่าสอบกี่บาท มาหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ
Duolingo English Test คืออะไร?
Duolingo English Test หรือที่เราเรียกกันว่า ดูโอ้ลิงโก้ คือ แบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ ใช้สำหรับยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลก ผู้สอบสามารถทำข้อสอบออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปสอบที่ศูนย์สอบ โดยคะแนนที่ได้ น้อง ๆ สามารถใช้ยื่นสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้มากถึง 4,000 แห่งทั่วโลก รวมถึงที่ MUIC หรือวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลด้วย
จุดเด่นของข้อสอบ Duolingo English Test คือ ระหว่างการสอบ AI จะปรับระดับความยากง่ายของข้อสอบให้ตรงตามระดับผู้สอบโดยอัตโนมัติ เช่น ถ้าเราตอบถูก ระบบก็จะเลือกให้ทำข้อที่ยากขึ้น แต่ถ้าตอบผิด ระบบก็จะเลือกให้ทำข้อที่ง่ายลงนั่นเองค่ะ
Duolingo English Test สอบอะไรบ้าง?
ข้อสอบที่น้อง ๆ ต้องเจอในการสอบ Duolingo English Test แบ่งออกเป็น 2 พาร์ท คือ
Adaptive Test
เป็นส่วนหลักของการสอบ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ข้อสอบจะวัด 4 ทักษะ คือ Reading (การเขียน) Listening (การฟัง) Speaking (การพูด) และ Writing (การเขียน) ซึ่งข้อสอบมีความ Random พอสมควร ไม่ได้แยกสอบแต่ละทักษะ บางข้ออาจมีการวัดหลายทักษะพร้อมกันค่ะ
Interview และ Writing Sample
ส่วนที่เป็น Interview จะให้เลือก 1 หัวข้อจากหัวข้อที่ให้มา แล้วให้พูดถึงหัวข้อนั้นประมาณ 1-3 นาที และส่วนที่เป็น Writing Sample จะให้เลือก 1 หัวข้อเช่นเดียวกัน แล้วให้เขียนเกี่ยวกับหัวข้อนั้น โดยไม่จำกัดความยาว ซึ่งระดับความยากง่ายของข้อสอบจะขึ้นอยู่กับคะแนนที่เราทำได้ในพาร์ท Adaptive Test โดยส่วนนี้จะไม่มีการคิดคะแนน แต่จะใช้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้กับสถาบันที่น้อง ๆ จะใช้สมัครเรียนต่อไปค่ะ
รูปแบบคำถามในข้อสอบ Duolingo English Test
- Read and Complete ประโยคในบทความจะมีคำที่ตัวอักษรขาดหายไป เพื่อให้ผู้สอบอ่านและเติมคำที่ถูกต้อง ให้เป็นคำที่สมบูรณ์และมีความหมายสอดคล้องกับทั้งบทความ
- Read and Select ให้เลือกคำที่ถูกต้อง ซึ่งต้องระมัดระวังคำหลอกที่จะมีปะปนออกมาด้วย
- Listen and Select ให้ฟังเสียงของคำศัพท์ และจะต้องเลือกคำศัพท์ที่เราฟังแล้วมีความถูกต้อง
- Listen and Type ให้ฟังเสียงความยาวประมาณ 1 ประโยค โดยสามารถฟังได้ทั้งหมด 3 ครั้ง จากนั้นให้พิมพ์ตามสิ่งที่ได้ยิน
- Read Aloud ให้ประโยคมา 1 ประโยค ผู้สอบต้องอ่านประโยคนั้นออกเสียงให้ชัดเจน
- Write About the Photo ให้เขียนอธิบายรูปภาพตามจำนวนประโยคที่โจทย์กำหนด ประมาณ 1-3 ประโยค
- Speak About the Photo ให้พูดบรรยายรูปภาพที่ข้อสอบกำหนดมาให้ ซึ่งเราต้องพูดอย่างน้อย 30 วินาที โดยระบบจะเริ่มบันทึกเสียงเราอัตโนมัติ
- Read then Write ข้อสอบจะมีโจทย์คำสั่งมาให้ แล้วให้ผู้สอบเขียนตอบอย่างน้อย 50 คำ ซึ่งระดับความยากของคำถามข้อนี้ จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำข้อสอบจากข้อที่ผ่านมาทั้งหมด
- Read then Speak จะได้บัตรคำถามพร้อมคำถามย่อย ๆ แบบปลายเปิด ซึ่งเป็นประโยชน์ในการกำหนดประเด็นว่าเราจะต้องพูดเกี่ยวกับหัวข้อใดบ้าง พยายามพูดให้ครบถ้วนภายใน 90 วินาที
- Listen then Speak ให้ฟังคำถามและวางแผนการตอบภายในเวลา 30 วินาที ซึ่งยังคงแนะนำแบบเดิมคือ ควรพูดให้ครบถ้วนทุกประเด็นภายใน 90 วินาที
- Speaking Sample ให้เลือกคำถาม 1 ชุด แล้วพูดตอบคำถามนั้น ๆ โดยพาร์ทนี้จะไม่ถูกนำไปคิดคะแนน แต่ระบบจะบันทึกเสียงของเราไว้ แล้วส่งให้มหาวิทยาลัยที่เราจะยื่นคะแนนแทนค่ะ
- Writing Sample ให้เลือกหัวข้อการเขียนมา 1 หัวข้อ แล้วเขียนตอบคำถามปลายเปิด พยายามเขียนให้เยอะและยาวที่สุดเท่าที่เป็นไปได้นะคะ
Duolingo English Test คะแนนเต็มเท่าไร?
ข้อสอบมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 160 คะแนน โดยมีการวัดระดับผลจากคะแนน ดังนี้
- 10-55 คะแนน หมายถึง สามารถเข้าใจคำและวลีภาษาอังกฤษระดับพื้นฐาน จัดการกับข้อมูลง่าย ๆ ทั่วไปได้
- 60-85 คะแนน หมายถึง สามารถเข้าใจจุดประสงค์หลักของการสื่อสารและการเขียนในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับกิจวัตรประจำวันได้
- 90-115 คะแนน หมายถึง สามารถสื่อสารโต้ตอบกับเจ้าของภาษาในห้วข้อบทสนทนาที่ไม่คุ้นเคยได้
- 120-160 คะแนน หมายถึง สามารถสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว เข้าใจสำนวนโวหาร ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้การอุปมาอุปไมย
Duolingo English Test สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง?
สามารถใช้ผลสอบยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยในไทย เช่น วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติ รวมทั้งยื่นมหาวิทยาลัยในต่างประเทศกว่า 4,000 แห่งอีกด้วย โดยน้อง ๆ สามารถ คลิก เพื่อดูสถาบันที่รับผลคะแนนสอบของ Duolingo
การส่งผลคะแนนไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
สามารถเข้าสู่ระบบเว็บไซต์ https://englishtest.duolingo.com ด้วยที่อยู่อีเมลที่น้อง ๆ ใช้ทำการทดสอบ แล้วส่งผลคะแนนที่ผ่านการรับรองไปยังสถาบันต่าง ๆ ได้สูงสุดถึง 20 แห่ง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถ้าต้องการส่งไปมากกว่า 20 แห่ง ต้องทำการติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนของศูนย์สอบโดยตรงค่ะ
สอบ Duolingo English Test ยากไหม?
ความยากง่ายขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่คำศัพท์ที่ออกข้อสอบมักเป็นคำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไวยากรณ์พื้นฐาน ไม่ได้มีการเขียน essay ยาวเหมือน IELTS ทำให้ส่วนใหญ่มักได้คะแนนค่อนข้างดีเลยค่ะ และอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า การสอบเป็นแบบ Adaptive Test ข้อสอบจะค่อย ๆ ปรับความยากขึ้นตามความสามารถของเรา เช่น ถ้าน้อง ๆ ตอบข้อปัจจุบันถูก ข้อต่อไปก็จะยากขึ้น แต่ถ้าน้อง ๆ ตอบผิด ข้อต่อไปก็จะลดระดับความยากลงนั่นเอง
กฎการสอบ Duolingo English Test
หลายคนอาจจะสงสัยว่า พอสอบออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ แบบนี้จะโกงกันได้ง่าย ๆ หรือเปล่า!? บอกเลยค่ะว่าแม้จะเป็นการสอบออนไลน์ แต่มีกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดมาก หาก AI ซึ่งเป็นผู้คุมสอบพบว่า ผู้เข้าสอบมีพฤติกรรมน่าสงสัย อาจถูก Block Account ปรับคะแนนเป็นโมฆะ หรืออาจจะต้องสอบใหม่ได้ค่ะ ซึ่งกฎของการสอบ Duolingo มีดังนี้
- ต้องอยู่คนเดียวในห้องที่เงียบและมีแสงสว่างเพียงพอ
- กล้องที่ใช้ต้องมองเห็นใบหน้าและหูชัดเจน
- ลำโพงเสียงดังชัดเจน
- มีไมโครโฟนที่สามารถพูดคุย สื่อสารได้
- ใช้เบราว์เซอร์ Chrome หรือ Opera เท่านั้น
- ห้ามใช้อุปกรณ์เครื่องเขียนหรือกระดาษใด ๆ
- ห้ามสื่อสารกับผู้อื่นระหว่างทำข้อสอบ
- ห้ามใช้หูฟังหรือที่อุดหู
- ห้ามมองไปที่อื่นนอกจากหน้าจอ
- ห้ามออกจากหน้าต่างการทดสอบเด็ดขาด
ค่าสอบ Duolingo English Test กี่บาท?
ค่าสอบจะอยู่ที่ $49 หรือประมาณ 1,600 บาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สบายกระเป๋ากว่าการสอบรูปแบบอื่น รวมทั้งสามารถส่งผลสอบไปยังสถาบันที่ต้องการสมัครเรียนได้ฟรีอีกด้วย
ขั้นตอนสมัครสอบ Duolingo English Test
น้อง ๆ สามารถสมัครออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ https://englishtest.duolingo.com/home ส่วนช่องทางการชำระค่าสอบสามารถเลือกได้ทั้ง Paypal หรือ Credit or Debit card
ข้อดีของการสอบ Duolingo English Test
- สอบออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ สอบได้ทุกเวลา
- รู้ผลสอบรวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมง
- ส่งคะแนนได้ทุกมหาวิทยาลัยแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งและไม่มีค่าใช้จ่าย
- ค่าสอบถูกกว่าการสอบรูปแบบอื่น
Duolingo VS IELTS สอบอะไรดี?
มาถึงคำถามที่หลายคนสงสัย Duolingo ใช้แทนผลสอบ IELTS ได้จริงไหม? Duolingo กับ IELTS เลือกสอบอะไรดี? น้อง ๆ สามารถใช้ผลสอบ Duolingo ยื่นแทน IELTS ได้ค่ะ เนื่องจากมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มักให้เลือกยื่นคะแนน English Test อย่างใดอย่างหนึ่ง
ส่วนคำถามที่ว่าจะเลือกสอบอะไรดีนั้น หากน้อง ๆ มีเป้าหมายอยากเข้า MUIC พี่แนะนำให้สอบ Duolingo เพราะสามารถยื่นผลสอบได้ทุกคณะ รวมทั้งสะดวกกว่า สอบได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ถ้ามีเป้าหมายอยากเข้าหลักสูตรอินเตอร์ มหาวิทยาลัยอื่น ๆ หรือมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ผลสอบ IELTS จะเป็นที่ยอมรับมากกว่าค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Duolingo English Test
1. สอบ Duolingo English Test ได้บ่อยแค่ไหน?
สามารถทำข้อสอบได้ 2 ครั้ง ใน 30 วัน
2. ถ้าเจอข้อที่ไม่มั่นใจ ควรกดข้ามคำถามดีมั้ย?
พี่แนะนำให้ตอบคำถามทุกข้อ ไม่ควรกดข้ามค่ะ เพราะคำถามข้อสอบได้ปรับให้ตรงกับระดับทักษะภาษาอังกฤษของเราแล้ว ดังนั้นตอบข้อที่คิดว่าใช่ดีกว่ากดข้ามไปทำข้ออื่นนะคะ
3. ตอนสามารถย้อนกลับไปข้อก่อนหน้าได้รึเปล่า?
ไม่ได้ค่ะ เมื่อเรากด Next คำตอบจะถูกใช้เป็นข้อมูลในการสร้างคำถามถัดไปทันที ย้อนกลับไปดูหรือไปแก้ไขไม่ได้น้า
4. ถ้าตอบผิดตั้งแต่ข้อแรก ๆ คะแนนจะออกมาน้อยมั้ย?
ไม่ค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าข้อสอบจะปรับระดับตามทักษะของเรา ถ้าน้อง ๆ ตอบผิดตั้งแต่ข้อแรก ๆ ระบบก็จะปรับคำถามของข้อต่อ ๆ ไปให้ตรงกับระดับภาษาอังกฤษของเรามาให้ เมื่อข้อสอบตรงกับสกิลที่เรามี แล้วตอบถูกเรื่อย ๆ คะแนนของเราก็จะไม่ออกมาน้อยนั่นเองค่ะ
5. คะแนน duolingo อยู่ได้กี่ปี?
คะแนนสอบมีอายุ 2 ปี
6. ถ้าสำเนียงภาษาอังกฤษไม่ดี จะถูกหักคะแนนมั้ย?
ไม่ค่ะ แค่ออกเสียงให้ชัดเจน เข้าใจได้ก็เพียงพอแล้วค่ะ
7. ถ้าเกิดมีปัญหาทางเทคนิคระหว่างทำข้อสอบ ต้องทำยังไง?
ถ้าน้อง ๆ ไม่ได้ละเมิดกฎใด ๆ จะได้รับอีเมลจากทาง Duolingo English Test และให้สิทธิสอบฟรีอีกครั้งค่ะ ทั้งนี้ก่อนทำการสอบ แนะนำให้เช็กความเสถียรของอินเทอร์เน็ตให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทำข้อสอบค่ะ
8. ใช้ผลสอบยื่นทำวีซ่าได้มั้ย?
ถ้าเป็นการยื่นขอวีซ่าเข้าต่างประเทศโดยตรง ตอนนี้ยังไม่สามารถใช้ผลสอบยื่นได้นะคะ แต่กรณีใช้ผลสอบยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัย แล้วทางมหาวิทยาลัยตอบรับ น้อง ๆ สามารถนำผลตอบรับของทางมหาวิทยาลัยยื่นขอวีซ่านักเรียนได้ค่ะ
สรุปแล้ว Duolingo English Test ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับน้อง ๆ เลยทีเดียวค่ะ นอกจากจะสะดวกและรวดเร็วทั้งการสอบและการรอผลสอบแล้ว ยังมีราคาที่สบายกระเป๋าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกที่ที่รับผลสอบ Duolingo ดังนั้นน้อง ๆ ต้องตรวจสอบ Requirement ของแต่ละที่ให้ละเอียด ไม่อย่างนั้นผลสอบของเราจะสูญเปล่าทันทีค่ะ
หากน้อง ๆ คนไหนกำลังมองหาคอร์สติวหลักสูตรอินเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น GED, IGCSE, IELTS, SAT ที่ The Advisor Academy มีคอร์สเรียนที่น้อง ๆ จะได้เรียนกับครูที่มีประสบการณ์สอนโดยตรง และมีความเชี่ยวชาญในข้อสอบหลักสูตรอินเตอร์โดยเฉพาะ ไม่เก่งภาษาอังกฤษ หรือไม่เคยเรียนหลักสูตรอเมริกันมาก่อน พี่ ๆ ก็พร้อมปูพื้นฐานและติวเข้มจนน้อง ๆ สอบผ่าน สนใจคอร์สเรียนติดต่อ The Advisor ได้เลยนะคะ