ทำความรู้จัก โฮมสคูล (Home School)
เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ หรือน้อง ๆ เอง คงเคยได้ยินคำว่า Home School มาบ้างใช่ไหมคะ ซึ่งในเมืองไทยของเรานั้น หลาย ๆ บ้านก็เริ่มให้ความสนใจ Home School มากขึ้นตั้งแต่ COVID-19 เป็นต้นมา เนื่องจากเป็นช่วงที่น้อง ๆ ต้องเรียนออนไลน์ที่บ้าน ผู้ปกครองต้องลงมือสอนเอง การเรียนรูปแบบนี้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย วันนี้ The Advisor จึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Home School มาไว้ในบทความนี้ เพื่อให้เข้าใจคอนเซปต์ของ Home School มากขึ้น
Home School คืออะไร?
โฮมสคูล (Home School) คือ การศึกษารูปแบบหนึ่งที่ใช้บ้านเป็นสถานที่เรียนรู้แทนการไปโรงเรียนแบบปกติ โดยมีพ่อแม่หรือผู้ปกครองเป็นคุณครู นั่นหมายความว่า คุณพ่อคุณแม่จะต้องจัดทำแผนการศึกษาเอง โดยอิงจากความสนใจลูกเป็นหลัก รวมทั้งประเมินผลการเรียนของลูก จัดเก็บแฟ้มผลงานแต่ละเทอม เพื่อส่งให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอีกด้วย
Home School มีกี่รูปแบบ?
Home School ไม่ได้จำกัดแค่ว่าพ่อแม่สอนลูกเองอยู่ที่บ้านเท่านั้นนะคะ เพราะจริง ๆ แล้ว Home School มีอยู่ด้วยกัน 5 รูปแบบ ดังนี้
1. Home School แบบเดี่ยว
รูปแบบ Home School ที่พ่อแม่เป็นผู้จัดการศึกษาหลักให้กับลูกด้วยตนเอง โดยจะต้องออกแบบหลักสูตร วางแผนการเรียนรู้ และกำหนดตารางเรียนที่เหมาะสมกับพัฒนาการของลูก พ่อแม่สามารถยืดหยุ่นเวลาและปรับเนื้อหาให้เหมาะกับความสนใจของลูก รวมถึงสอดแทรกทักษะชีวิตในการเรียนรู้ประจำวัน การประเมินผลจะทำร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าการเรียนรู้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา
2. Home School แบบกลุ่ม
รูปแบบการจัดการศึกษาที่ผสมผสานระหว่างการเรียนรู้ที่บ้านและการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว Home School อื่น ๆ พ่อแม่ยังคงเป็นผู้จัดการศึกษาหลัก แต่มีการวางแผนพบปะกับครอบครัวอื่นเป็นประจำ เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน เช่น การทำโครงงาน การเรียนรู้นอกสถานที่ หรือชมรมตามความสนใจ วิธีนี้ช่วยให้น้อง ๆ ได้พัฒนาทักษะทางสังคม สร้างมิตรภาพ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนในวัยเดียวกัน
3. Home School แบบรวมศูนย์
การรวมตัวกันของครอบครัว Home School เพื่อจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ที่มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีคณะกรรมการที่มาจากตัวแทนครอบครัวเป็นผู้บริหารจัดการในรูปแบบองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร มีการออกแบบหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน รวมถึงการแบ่งปันทรัพยากรการเรียนรู้ เช่น สถานที่ อุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายและมีคุณภาพ
4. Home School ร่วมกับโรงเรียน
รูปแบบนี้ผสมผสานระหว่างการเรียนที่บ้านและการใช้ทรัพยากรจากโรงเรียน โดยพ่อแม่ยังคงเป็นผู้จัดการศึกษาหลัก แต่มีความร่วมมือกับโรงเรียนในด้านต่าง ๆ เช่น การใช้สื่อการเรียนการสอน ห้องปฏิบัติการ สนามกีฬา หรือการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษของโรงเรียน เช่น การแข่งขันกีฬา การทัศนศึกษา หรือการเรียนวิชาเฉพาะทาง การประเมินผลจะทำร่วมกับโรงเรียนตามเกณฑ์ที่ตกลงกัน
5. Home School แบบออนไลน์
รูปแบบการจัดการศึกษาที่ใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือหลักในการเรียนรู้ โดยเลือกใช้หลักสูตร Home School จากต่างประเทศที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ เด็ก ๆ จะเรียนผ่านระบบออนไลน์ที่มีครูผู้สอนเป็นชาวต่างชาติ มีสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย และมีระบบติดตามความก้าวหน้าที่ชัดเจน วิธีนี้เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการให้ลูกได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมต่างประเทศไปพร้อมกัน
Home School ทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไร?
คำถามนี้เป็นคำถามที่ผู้ปกครองหลายท่านสงสัยกันค่ะ จริง ๆ แล้ว การเริ่มต้นการศึกษาแบบ Home School นั้นไม่มีข้อจำกัดด้านอายุที่ตายตัว ผู้ปกครองสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเลยค่ะ
สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเริ่มต้น Home School
- ความพร้อมของผู้ปกครอง การเป็นทั้งครูและพ่อแม่นั้นต้องใช้เวลาและความอดทนเป็นอย่างมาก ผู้ปกครองต้องมีความพร้อมทั้งด้านเวลา ความรู้ และทรัพยากร
- หลักสูตรการเรียน มีหลากหลายรูปแบบของหลักสูตร Home School ให้เลือก ผู้ปกครองต้องเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมกับลูกที่สุด
- การเข้าสังคม การเรียนแบบ Home School อาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการเข้าสังคมกับเพื่อนวัยเดียวกัน ผู้ปกครองควรจัดกิจกรรมหรือหากลุ่ม Home School เพื่อให้ลูกได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
- กฎระเบียบ แม้ว่าการเรียนแบบ Home School จะได้รับการยอมรับในประเทศไทย แต่ก็มีกฎระเบียบที่ผู้ปกครองต้องปฏิบัติตาม เช่น การจดทะเบียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
เรียน Home School อย่างไรให้ได้วุฒิการศึกษา
ใครที่กังวลว่าเรียนโฮมสคูลแล้ว ลูก ๆ จะไม่มีวุฒิการศึกษาไว้เข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย หมดกังวลได้เลยค่ะ! เพราะการเรียนโฮมสคูลก็สามารถรับวุฒิการศึกษาได้เหมือนกันการเรียนปกติ ซึ่งผู้ปกครองสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
- จดทะเบียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามเขตพื้นที่ที่อาศัยอยู่
- ลงทะเบียนเรียนในระบบ กศน. หรือการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
- จดทะเบียนกับโรงเรียนที่เปิดรับเด็กโฮมสคูล
- ขอสอบเทียบวุฒิการศึกษาต่างประเทศ เช่น การลงเรียนและสอบเทียบ GED และการสอบเทียบ IGCSE & A Level
การสนับสนุน Home School จากรัฐ
การทำโฮมสคูลจะต้องลงทะเบียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จากนั้นจะได้รับ “เงินอุดหนุนทางการศึกษา” ที่จัดสรรให้นักเรียนตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษาไปจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยแบ่งออกเป็น 5 หมวด ได้แก่
- ค่าจัดการเรียนการสอน
- ค่าหนังสือเรียน
- ค่าอุปกรณ์การเรียน
- ค่าเครื่องแบบนักเรียน
- ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ทั้งนี้นักเรียนแต่ละระดับชั้นก็จะได้รับเงินอุดหนุนไม่เท่ากันค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข้อดีและข้อควรระวังของ Home School
มาถึงตรงนี้หลายครอบครัวอาจจะลังเลว่าจะทำโฮมสคูลดีไหม The Advisor พาดูข้อดีและข้อควรระวังเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น
ข้อดีของโฮมสคูล
- วางแผนหลักสูตรได้เอง โดยอิงจากความสนใจของน้อง ๆ เป็นหลัก
- เวลาเรียนมีความยืดหยุ่น
- ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมกับการเรียนรู้ของน้อง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด
- น้อง ๆ สามารถค้นพบสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบหรือถนัดได้อย่างรวดเร็ว
- ไม่ต้องเรียนทุกวิชา เลือกเรียนเฉพาะวิชาที่จำเป็นต้องใช้เข้ามหาวิทยาลัย ทำให้เรียนจบได้เร็วกว่าการเรียนในระบบโรงเรียน
ข้อควรระวังของโฮมสคูล
- ผู้ปกครองต้องมั่นใจว่ามีเวลาเพียงพอที่จะดูแลเรื่องการเรียนของเด็ก ๆ
- ทักษะการเข้าสังคมอาจจะน้อยกว่าการเรียนในโรงเรียน
- ผู้ปกครองต้องอัปเดตข่าวสารหลักสูตรต่าง ๆ อยู่เสมอ และออกแบบหลักสูตรให้ดี เพราะหากตกหล่นอะไรไป อาจส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ได้
อยากทำ Home School ให้ลูกต้องทำอย่างไร?
เมื่อสำรวจความพร้อมและศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองสามารถยื่นคำขออนุญาตจัดการเรียนการสอนแบบโฮมสคูลที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยครอบครัวและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องร่วมกันวางแผนและออกแบบหลักสูตรให้เหมาะสม เพื่อทำการเรียนการสอนแบบโฮมสคูลต่อไป
อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าเหล่าคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองคงเห็นภาพกันมากขึ้นว่า โฮมสคูลคืออะไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันโฮมสคูลเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยหลักสูตรที่ออกแบบเอง ทำให้น้อง ๆ มีอิสระในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังสามารถขอวุฒิการศึกษาได้เช่นเดียวกับการเรียนในโรงเรียนอีกด้วย
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าการเรียนโฮมสคูล สามารถขอวุฒิด้วยการสอบเทียบ GED หรือ IGCSE ได้ ซึ่งที่ The Advisor Academy ของเรามีคอร์สเรียน GED, IGCSE, IELTS, SAT โดยน้อง ๆ จะได้เรียนกับครูที่มีประสบการณ์สอนโดยตรง และมีความเชี่ยวชาญในข้อสอบหลักสูตรอินเตอร์โดยเฉพาะ ไม่เก่งภาษาอังกฤษ หรือไม่เคยเรียนหลักสูตรอเมริกันมาก่อน พี่ ๆ ก็พร้อมปูพื้นฐานและติวเข้มจนน้อง ๆ สอบผ่าน สนใจคอร์สเรียนติดต่อ The Advisor ได้เลยนะคะ